มึงเป็นใครถึงไปสอนคนอื่น? (or What I learned teaching someone something I have no right to teach)

1909389_10153471251308513_1061193578676519566_o

“ตีมือขวาพร้อมกับเท้าขวา แล้วก็มือซ้ายกับมือขวาพร้อมกัน แล้วก็กลับมาตีมือขวาพร้อมกับเท้าขวาอีก วนไปเรื่อยๆ ”

ทันทีที่พูดประโยคข้างบนจบ เรารู้ทันทีว่าเราพบคำตอบบางอย่างแล้ว สองพันกว่าปีที่แล้วใครบางคนพบคำตอบของชีวิตใต้ต้นโพธิ์ แต่วันนี้เราพบคำตอบของตัวเองในห้องซ้อมดนตรีซอมซ่อ ใต้รางรถไฟฟ้า จากการสอนสิ่งที่เพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรกเมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านี่แหละ

ปีก่อนเราลงเรียนเต้นสวิงจนจบคอร์สระดับสูงสุดที่มีสอน แต่ตอนนี้สกิลการเต้นเรายังไม่ต่างอะไรจากคนที่ไปลองเต้นครั้งแรกเท่าไหร่ ถ้าคนที่เหลือในคลาสเข้าใจทุกอย่างที่ครูสอนและเก่งขึ้นทุกครั้งที่เรียน ปัญหาก็น่าจะอยู่ที่เราจริงมั๊ย?

ปัญหาในการเต้นของเราคือการนับจังหวะ และคนนับสิบที่เราขอให้สอนนับจังหวะให้ ไม่เคยมีใครทำให้เราเข้าใจได้เลย ทุกคนยินดีที่จะสอน และทุกคนก็คิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แต่จริงๆ แล้วการนับจังหวะกับการสอนให้คนนับจังหวะมันเป็นคนละเรื่องกัน

ตั้งแต่เด็กเราไม่เคยคิดจะสอนอะไรใครไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม การสอนเป็นหน้าที่ของคนที่เก่ง ไม่งั้นจะมีครูไว้ทำไม ไปเรียนภาษาไทยกับป้าขายข้าวแกงก็ได้ เพราะคิดแบบนี้เราเลยไม่เคยสอนการบ้านใคร ก็จะไปสอนได้ยังไง กลับบ้านก็วิ่งไล่จับแมลง ช่วยเจ้าหญิงจากราชาปิศาจ และไปอ่านหนังสือเอาคืนก่อนสอบอยู่เลย

ขณะที่บอกตำแหน่งมือและเท้าที่ต้องใช้ให้เมย์เราถึงเข้าใจ ถ้าเรารอให้ตัวเองเก่งกว่านี้สิ่งแรกที่เราจะสอนเมย์คือชื่อเรียกของอุปกรณ์แต่ละชิ้น และเราจะบอกให้เมย์ทำสิ่งเดียวกันด้วยภาษาที่ต่างออกไป

“ตี Hi-Hat พร้อมกับเหยียบกระเดื่อง แล้วก็ตี Snare กับ Hi-Hat พร้อมกัน แล้วกลับมาตี Hi-Hat พร้อมกับเหยียบกระเดื่องอีก วนไปเรื่อยๆ ”

เมย์ไม่มีทางจะเข้าใจถ้าเราพูดแบบนั้น และเราก็จะไม่เข้าใจว่าทำไมเมย์ถึงไม่เข้าใจเรื่องง่าย

มันเป็นเพราะเราพูดกันคนละภาษา แต่ตอนนี้ที่เราพูดให้เข้าใจได้ เพราะเราพูดภาษาเดียวกัน เป็นมือใหม่เหมือนกัน

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่เราควรจะสอนใครอาจเป็นตอนที่เรากำลังเรียนรู้นี่แหละ เพราะเราจะเข้าใจว่าคนที่เริ่มจากศูนย์เหมือนกันรู้สึกยังไง การสอนทั้งๆ ที่เรายังไม่เก่งเราอาจทำประโยชน์ได้มากกว่าตอนที่เรารอให้ตัวเองเก่งแล้ว

“ช้าๆ ตีช้าๆ ไม่ต้องรีบ” เราพูดประโยคนี้กับเมย์ในขณะที่เห็นภาพตัวเองพยายามเร่งจังหวะทุกครั้งที่ฝึกตีกลอ

ข้อดีอีกอย่างของการสอนคนอื่นก็คือการได้ทบทวนตัวเอง เราไม่มีทางที่จะสอนคนอื่นได้โดยไม่เห็นตัวเองในนั้น เราไม่มีทางจะไม่รู้สึกอะไรถ้าเราสอนคนอื่นอย่างนึงแต่เราทำอีกอย่างนึง

สุดท้ายแล้วการสอนคือเรื่องของการสื่อสาร จะสื่อสารยังไงให้คนเข้าใจ และเราไม่มีทางที่จะเข้าใจคนอื่นโดยที่เราไม่เคยรู้สึกแบบเดียวกับคนนั้นมาก่อน หรือเราหลงลืมความรู้สึกนั้นไปแล้ว

บางทีถ้าเราลองสัมผัสความหิวดูบ้างเราอาจเข้าใจว่าทำไมประเทศนี้ถึงยังมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียง และเราอาจจะแค่ยิ้มเวลาประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม บางทีถ้าเราเข้าใจคนอื่นมากขึ้นเรื่อยๆ เราอาจจะยิ้มมากขึ้นเรื่อยๆ หรืออาจสร้างรอยยิ้มในตัวคนอื่นได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ปล. ถึงครูสอนว่ายน้ำในชีวิตทุกคนที่พูดว่า “อย่าเกร็ง” ความเกร็งเกิดจากการกลัวว่าจะทำอะไรผิด และการถูกบอกว่าอย่าเกร็งแปลว่าเราทำผิดอยู่ นั่นทำให้ยิ่งเกร็งขึ้นไปอี

ปล.2 วิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้คนที่พูดน้อยอยู่แล้วพูดน้อยลงไปอีกก็คือการพูดกับคนๆ นั้นว่า “พูดบ้างก็ได้นะ”